วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การเลือกใช้แบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับรถยนต์


แบตเตอรี่รถยนต์ ตามปกติควรเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด เท่ากับมาตรฐานที่โรงงานผลิตรถยนต์ใช้ แต่ถ้ามีการเพิ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ ก็ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นจะดีกว่า และควรเปลี่ยนอุปกรณ์ในการผลิตไฟฟ้าและไดชาร์จ ให้มีความสามารถสูงขึ้นด้วย รถเดิมๆที่ไม่มีการเพิ่มเติมอุปกรณ์ไฟฟ้า ถ้าเลือกใช้แบตเตอรี่แบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น หรือที่เรียกกันว่าแบตแห้ง (MF battery) ก็จะดีตรงที่ไม่ต้องมาคอยดูแลรถบ่อยๆ หรือเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีความรู้เรื่องรถมากนัก แต่ถ้ามีการเพิ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าภายหลัง เช่นเครื่องเสีย ทีวี ไฟตัดหมอก ไฟหน้าขนาดใหม่สว่างกว่าเดิม ก็ควรเลือกแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดทั่วๆไป จะใช้งานได้เหมาะสมกว่า เพราะอุปกรณ์ ต่างๆจะใช้กำลังกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก หากใช้แบตแห้งอาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
เลือก ค่าความจุของแบตเตอรี่ให้เหมาะสม เลือกแบตเตอรี่ที่มีช่องรูตาแมว สำหรับดูค่าความถ่วงจำเพาะของกรดหรือสถานะของแบตเตอรี่ ที่สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ไฟเต็ม ไฟอ่อน ต้องเติมน้ำกลั่น โดยดูการเปลี่ยนแปลงตามสถานะของสีที่เปลี่ยนแปลงไป

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ค่าความจุของแบตเตอรี่มันสำคัญอย่างไร


บางคนสงสัยทำไมแบตเตอรี่มันมีหลายขนาด จำชื่อรุ่นก็ยาก แล้วยังมาเรื่องความจุอีก ทำไมเขาไม่ทำให้มันมีขนาดเดียวกัน
ค่าความจุที่เขียนติดมากับแบตเตอรี่ เราจะสังเกตุเห็นเป็นตัวเลขและตัวอักษรที่ฝาแบตเตอรี่ เช่น 12V 75 Ah หมายถึงค่าความดันไฟฟ้า 12 โวลท์และมีค่าการปล่อยกระแสไฟคงที่ 75 แอมป์-ชั่วโมง แต่โดยทั่วไปจะคิดกันที่ 20 ชั่วโมง กระแสไฟจ่ายคงที่ของแบตรุ่นนี้คือ 3.75 แอมป์ในเวลา 20 ชั่วโมง ที่แบตเตอรี่มีขนาดความจุไม่เท่ากัน เพราะความต้องการในการใช้งานของรถยนต์ มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาดเครื่องยนต์ ระบบการจ่ายไฟฟ้าสำรองและความต้องการกำลังในการสตาร์ทรถ ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้แบตเตอรี่จึงมีความจุที่แตกต่างกันไป การเลือกติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่ ก็ไม่ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุต่ำกว่าเดิม เพราะเมื่ออายุการใช้งานของรถมีมากขึ้นอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ จะมีความเป็นตัวนำไฟลดลงทำให้กระแสไฟสูญเสีย ไปกับความร้อนที่เกิดขึ้นควรเผื่อค่าการจ่ายไฟไว้บ้าง โดยเพิ่มค่าความจุให้มากขึ้นกว่าเดิมน่าจะดีกว่า

เรียก"แบตแห้ง"ทำไมข้างในมีน้ำหล่ะ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ เมื่อคุณมัลลิกามาที่ร้านสั่งแบตเตอรี่แห้ง รถโตโยต้ารุ่น Camry และให้ไปส่งที่ศูนย์โตโยต้าซึ่งรถเธอจอดซ่อมอยู่ที่นั่น ผมไปบริการติดตั้งด้วยตนเอง เมื่อกลับมาที่ร้านเธอก็โทรมาถามเรื่องแบตเตอรี่ เนื่องจากทางศูนย์โทรไปบอกเธอว่า ผมเอาแบตน้ำไปส่งให้เธอไม่ใช่แบตแห้ง อย่างที่ตกลงกันไว้ เพราะเด็กที่ศูนย์แจ้งว่าแบตมันมีน้ำอยู่ข้างในและมีรูเติมน้ำกลั่นตั้ง6 รู มันจะเป็นแบตแห้งได้จะได ....กว่าผมจะอธิบายให้เธอและเด็กที่ศูนย์ฮู้เรื่อง เล่นเอาเหนื่อย....
คำว่า"แบตแห้ง"เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น หลายคนยังเข้าใจว่าแบตเตอรี่แห้งคือมันแห้งจริงๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว แบตแห้งที่นำมาใช้กับรถยนต์ ยังคงมีของเหลวอยู่ภายใน เช่นเดียวกับแบตชนิดตะกั่ว-กรดหรือแบบธรรมดาทั่วไป แต่ที่แตกต่างคือสูตรส่วนผสมพิเศษ ที่ทำให้ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นสะดวกต่อการใช้งาน การปล่อยทิ้งไว้ในสภาพไม่มีไฟประจุ สามารถอยู่ได้นานกว่าแบตธรรมดาทั่วไป ปริมาณการเกิดแก๊สจากปฎิกิริยาทางเคมี มีน้อย ส่วนฝาแบตเตอรี่จะถูกออกแบบมา เพื่อให้เกิดการระเหยของน้ำ เกิดการหมุนเวียนและหยดกลับคืนอยู่ภายในแบตเตอรี่

ชนิดแบตเตอรี่ที่เรียกกันว่า"แบตแห้ง" นี้ มันก็คือ MF battery มาจากคำเต็มว่า Maintenance Free เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องหมั่นดูแลรักษา(คอยเติมน้ำกลั่น) อายุการใช้งานจะยาวนานกว่าแบตธรรมดา ประมาณมากกว่า 2-3 ปีขึ้นไป ข้อที่ไม่ดีก็คือมีราคาแพงกว่าแบตทั่วไปและมีปัญหาเรื่องถ้าอากาศร้อนมากๆอาจทำให้แบตมีปัญหาเรื่องการระบายแก็สจากภายในเพราะระบบรูหายใจเป็นแบบทางเดียว ดังนั้นแบตเตอรี่หลายยี่ห้อจะยังมีจุกเติมน้ำกลั่นไว้ทุกช่องโดยเฉพาะบนฝาจูก จะมีรูเล็กๆระบายแก็ส ช่วยให้แบตเตอรีไม่เกิดอาการบวมได้ ยามหน้าร้อนแนะนำไม่ควรจอดรถไว้ในที่ ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปเพื่อรักษาแบตเตอรี่ของท่านให้มีอายุยืนยาวนานกว่าจะเปลี่ยน